มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอเสียงวิจารณ์อย่างหนักในเรื่องต่าง ๆแต่เจ้าตัวก็ก้มหน้าทำงานของตัวเองต่อไป

อย่างไรก็ตาม เกมล่าสุดที่ แมนยู เปิดบ้านเอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไปได้ 4-2 แรชฟอร์ด ไม่ได้มีชื่อติดทีมเนื่องจากอาการบาดเจ็บ และด้วยการที่ แรชฟอร์ด เจอกระแสด้านลบนั้นถึงขั้นระบายความรู้สึกผ่านโซเชียล มีเดีย หลังที่ผ่านมาเจ้าตัวโดนกระทำในเชิงลบเป็นเวลานาน

“มาร์คัส แรชฟอร์ด สิ่งที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เจอนั้น คือการถูกกระทำด้วยวิธีที่น่าขยะแขยง มันโหดร้าย และเป็นการละเมิด”

ต่อมา แรชฟอร์ด ก็ได้รีทวีตข้อความนี้พร้อมเขียนขอบคุณ และระบายความรู้สึกออกมา

มีแอคเคาท์ใน X (ทวิตเตอร์) ได้โพสต์ให้กำลังใจ

มาดูข้อมูลและประวัติล่าสุดของ มาร์คัส แรชฟอร์ด อดีตเด็กดาวรุ่งมากพรสวรรค์ ที่เติบโตมาในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนจะพัฒนาฝีเท้า จนกลายเป็นดาวยิงตัวความหวังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในเวลานี้

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม : มาร์คัส แรชฟอร์ด

เกิด : 31 ตุลาคม 1997 (2540) ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ

อายุ : 23 ปี

สัญชาติ : อังกฤษ

ตำแหน่ง : กองหน้า, ปีกซ้าย

ส่วนสูง : 185 เซนติเมตร

เส้นทางลูกหนัง

มาร์คัส แรชฟอร์ด ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1997 ที่ เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะไม่ค่อยสู้ดีนัก โดย เมลานี คุณแม่ของเขา เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีลูกถึง 5 คน ทำให้เธอต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว

สำหรับ มาร์คัส เริ่มต้นเส้นทางสายลูกหนัง ตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ กับสโมสรเยาวชน เฟล็ทเชอร์ มอสส์ เรนเจอร์ส ทีมฟุตบอลระดับเยาวชนของท้องถิ่น ที่เคยปั้นนักเตะให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วหลายราย ไม่ว่าจะเป็น เวส บราวน์แดนนี่ เวลเบ็ค รวมถึง เจสซี่ ลินการ์ด

ทว่า สิ่งที่น่าแปลกใจคือ แรชฟอร์ด เริ่มเล่นฟุตบอลในตำแหน่ง ผู้รักษาประตู ในปีแรกกับทีม โดยไอดอลในวัยเด็กของเขาคือ ทิม ฮาวเวิร์ด อดีตนายทวารชาวสหรัฐอเมริกาของ ปีศาจแดง อย่างไรก็ตาม เขาได้เปลี่ยนมาเล่นในตำแหน่ง กองหน้า ในปีต่อมา ก่อนที่เขาจะตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2005 ด้วยวัยเพียง 7 ขวบเท่านั้น ท่ามกลางความสนใจจาก เอฟเวอร์ตัน และ ลิเวอร์พูล โดยเขาได้ยกเครดิตให้กับพี่ชายของเขา ที่ช่วยให้เขาตัดสินใจเลือกย้ายซบชายคา โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเวลานั้น

แรชฟอร์ด” รับปริญญาเอก “ม.แมนเชสเตอร์” ยกย่องความดี สู้เพื่อเด็กยากจน

ซึ่งนับจากนั้น เขาก็ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดเยาวชนของสโมสรอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลายาวนานกว่า 10 ปี จนกระทั่ง แรชฟอร์ด ในวัย 18 ปี ได้มีชื่อติดทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2015 ในศึกพรีเมียร์ลีก ที่ ยูไนเต็ด เอาชนะ วัตฟอร์ด 2-1 ในยุคที่พวกเขามี หลุยส์ ฟาน กัล เป็นกุนซือ

ก่อนที่ แรชฟอร์ด จะได้มีโอกาสลงประเดิมสนามให้กับ ปีศาจแดง ชุดใหญ่เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2016 ในศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง ที่พวกเขาถล่มเอาชนะ มิดทิลแลนด์ ทีมจากเดนมาร์ก ไปได้ 5-1 โดย แรชฟอร์ด ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับทีม เนื่องจาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้รับอาการบาดเจ็บในช่วงอบอุ่นร่างกายก่อนเกม

คนที่ 8 แมนยูฯ "แรชฟอร์ด" ขึ้นแท่นเด็กปั้นสโมสร ยิงครบ 100 ประตู หลังชนะเวสต์แฮม

ซึ่งเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป เมื่อจัดการยิงไปถึง 2 ประตูในเกมดังกล่าว ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะแมนยูที่อายุน้อยที่สุด ที่ทำประตูได้ในฟุตบอลยุโรปได้ ด้วยวัยเพียง 18 ปี 117 วัน ซึ่งทำลายสถิติของ จอร์จ เบสต์ ปีกชาวไอร์แลนด์เหนือ เจ้าของฉายา เทพบุตรมหาภัย ที่เคยทำไว้ด้วยวัย 18 ปี 158 วัน ก่อนที่สถิติของ แรชฟอร์ด จะถูก เมสัน กรีนวู้ด ดาวยิงรุ่นน้อง ทำลายลงไปในฤดูกาล 2019/20

หลังจากเกมนั้นเพียง 3 วัน แรชฟอร์ด ก็ได้ประเดิมสนามในศึกพรีเมียร์ลีก และเขาก็สร้างชื่อให้กับตัวเองได้อีกครั้ง หลังซัดไป 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ อาร์เซน่อล 3-2 ซึ่งจากฟอร์มอันสุดยอดของเขา ทำให้เขาแจ้งเกิดกับทีมในฐานะ ดาวรุ่งดวงใหม่ ได้อย่างเป็นทางการทันที

โดยจากนั้นอีกเพียงไม่ถึงเดือน แรชฟอร์ด ก็ได้สร้างอีกสถิติให้กับตัวเอง เมื่อเป็นผู้ยิงประตูชัยให้ทีม บุกไปเฉือนชนะคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ในวันที่ 20 มีนาคม 2016 ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุด ที่ยิงประตูในศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์ ในยุคของพรีเมียร์ลีก ด้วยวัย 18 ปี 141 วัน โดยสุดท้ายแล้ว แรชฟอร์ด ซัดไปทั้งสิ้น 5 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 11 นัดในศึกพรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2015/16 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกในชีวิตของเขา

หลังจากนั้น ดาวยิงชาวอังกฤษ ก็ยังคงสร้างผลงานกับทีมได้ดีอย่างต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นไปเป็นกำลังหลัก และเป็นความหวังในเกมรุกของทีมได้อย่างเต็มตัว โดยในฤดูกาล 2019/20 เขายิงไปถึง 17 ประตู พร้อมทำ 9 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 31 นัดในเกมลีก ทำให้เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมในศึกพรีเมียร์ลีก ร่วมกับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ยิงไป 17 ประตูเช่นกัน

ผลงานทีมชาติอังกฤษ

แรชฟอร์ด รับใช้ ทีมชาติอังกฤษ มาแทบจะครบทุกรุ่น ในสมัยเป็นเยาวชน เริ่มตั้งแต่ U16, U18, U20 และ U21 กระทั่ง หลังจากที่เขาระเบิดฟอร์มอันยอดเยี่ยมให้กับ ปีศาจแดง ในฤดูกาล 2015/16 ทำให้ แรชฟอร์ด ถูกเรียกตัวติดทัพ สิงโตคำราม ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2016 ในเกมอุ่นเครื่องที่ อังกฤษ ในยุคของ รอย ฮอดจ์สัน เฉือนชนะ ออสเตรเลีย 2-1 โดยเขาใช้เวลาอยู่ในสนามเพียง 3 นาที ก็สามารถยิงประตูในนามทีมชาติชุดใหญ่ได้ทันที ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ที่ทำประตูในนามทีมชาติอังกฤษได้ตั้งแต่นัดแรกที่ประเดิมสนาม ด้วยวัยเพียง 18 ปี 6 เดือน 26 วัน

จากนั้น แรชฟอร์ด จึงมีชื่อติดทีม ไปลุยศึก ยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส และเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2016 ในเกมที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม ที่ อังกฤษ เฉือนชนะ เวลส์ 2-1 แรชฟอร์ด ถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรอง ในนาที 73 แทนที่ของ อดัม ลัลลาน่า ส่งผลให้เขา กลายเป็นนักเตะอังกฤษที่อายุน้อยที่สุด ที่ได้ลงเล่นในศึกยูโร ด้วยวัย 18 ปี 229 วัน ทำลายสถิติของ เวย์น รูนีย์ ที่ทำไว้ในศึก ยูโร 2004 ไปเพียง 4 วันเท่านั้น

เรื่องน่างงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด - Pantip

โดยนับจากนั้นมา แรชฟอร์ด ก็มีชื่อติดทีม สิงโตคำราม เรื่อยมา รวมถึงศึก ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ที่ อังกฤษ คว้าอันดับที่ 4 ไปครอง แม้ว่าเขาจะยิงประตูในทัวร์นาเม้นต์นี้ไม่ได้ก็ตาม

จวบจนถึงปัจจุบัน แรชฟอร์ด ยังคงเป็นกำลังหลักของ ทีมชาติอังกฤษ โดยเขาติดธงไปแล้ว 40 นัด ยิงได้ 11 ประตู และทำไป 6 แอสซิสต์

เกียรติประวัติ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :

  • แชมป์ เอฟเอ คัพ 1 สมัย : 2015/16
  • แชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย : 2016
  • แชมป์ ลีก คัพ 1 สมัย : 2016/17
  • แชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 1 สมัย : 2016/17

รางวัลส่วนตัว :

  • นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 สมัย : 2015/16
  • ติดทีมยอดเยี่ยมของ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 1 สมัย : 2019/20
  • ประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 สมัย : 2019/20

 

By admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *